รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ติดตามปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติในพื้นที่ภาคใต้ เผยต้องกวาดล้างให้สิ้นซากภายใน 3 เดือน
|
|
แหล่งที่มา : สวท.สงขลา
|
|
วันที่ข่าว : 13 กรกฎาคม 2561
|
รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ติดตามปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติในพื้นที่ภาคใต้ เผยต้องกวาดล้างให้สิ้นซากภายใน 3 เดือน หลังจับนายหน้าคนสำคัญชาวเมียนมาร์ได้แล้ว 4 คน และรู้เครือข่ายหมดแล้วทั้งในประเทศต้นทางเมียนมาร์ และในไทย พร้อมเผยเรือล่มภูเก็ตเตรียมหารือเพิ่มเงินเยียวยา และดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดกับนอมินี และเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเลย
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ (13 ก.ค. 61) ที่สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินทางลงพื้นที่ติดตามปัญหาการค้ามนุษย์ชาวเมียนมาร์-โรฮิงยา ในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ต้นทางในประเทศเมียนมาร์ ไปยังประเทศมาเลเซีย โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายหน้าคนสำคัญที่เป็นชาวเมียนมาร์ได้ทั้งหมดแล้วรวม 4 คน ประกอบด้วย นายอาตู นายโม นายนิ และ นาย อาว พร้อมกับช่วยเหลือเหยื่อได้ 89 คน และกระทรวงพัฒนาสังคม อยู่ระหว่างการคัดแยก โดยเฉพาะการปฏิบัติการ 7 ครั้งล่าสุดในพื้นที่ 7 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ระนอง ชุมพระ สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี และ นราธิวาส สามารถช่วยเหลือเหยื่อชาวเมียนมาร์ และชาวโรฮิงยา ได้ทั้งหมด 81 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5 คน และสามารถจบกุมผู้ต้องได้ 12 ราย รวมทั้งได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 10 หมาย และสามารถจับกุมได้ทั้งหมดแล้วเช่นกัน นอกกจากนี้ยังยึดรถทัวร์ได้ 2 คัน รถยนต์กระบะ 3 คัน และ รถเก๋ง 4 คัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติทั้งหมดแล้วตั้งแต่ประเทศต้นทางจนถึงปลายทาง โดยในเมียนมาร์มี 5 กลุ่ม ส่วนกลางทาง หรือในไทยที่เป็นที่พักพิง 50 กลุ่ม และปลายทางในประเทศมาเลเซีย อีก 3 กลุ่ม และจากนี้จะเร่งปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน
นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุเรือท่องเที่ยวล่มที่ จ.ภูเก็ต ทั้งการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต และการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยระบุว่า ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไป จ.ภูเก็ต เพื่อประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายไทย และฝ่ายจีน รวมทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันทั้งหมดราว 200 ราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจะมีเรื่องทั้งที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิต โดยเฉพาะเงินเยียวยาจากเดิมที่ได้รับจากรัฐบาลรายละ 1 ล้าน โดยจะพูดคุยถึงความเป็นไปได้ว่า จะจ่ายเงินเยียวยาได้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของบริษัทเจ้าของเรือ ซึ่งเบื้องต้นได้จ่ายให้แค่รายละ 1 แสนบาท เท่านั้น อีกทั้งจะเร่งรัดให้มีการสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มนอมินีชาวต่างชาติที่มาเปิดบริษัทบังหน้า รวมทั้งการพิสูจน์หาเหตุที่เรือล่มว่า มาจากความประมาท หรือสภาพของเรือ และการสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ หากพบว่าบกพร่อง
ข้อมูลข่าวและที่มา
จำนวนผู้เข้าชม : 1234
ผู้สื่อข่าว : สุธิดา พฤกษ์อุดม
Rewriter : ธนิกา เนาวรัชต์
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th
|